ใจดวงนี้…มีเพียงรัก – ศรารัณ
คำว่า “บุญคุณ” ที่ค้ำคออยู่ อีกทั้งฐานะที่ไม่มีอะไรเทียบกับเธอได้เลยในตอนนั้น
จึงทำให้คุณตาของเธอกีดกันให้เขาและเธอเป็นได้เพียงพี่น้อง
ชายหนุ่มไม่อยากได้ชื่อว่า เป็นคนอกตัญญูกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา
จึงจำต้องเอ่ยวาจาตัดรอนความสัมพันธ์ออกไป ทำให้เธอเข้าใจผิดคิดว่าตัวเขาหมดเยื่อใยจากเธอไปแล้ว
เเต่ก็ไม่ได้หมายความว่าชายหนุ่มจะหมดรักในตัวหญิงสาว ที่อยู่ในฐานะน้องสาวของตนเองไปเสียเลยทีเดียว
หากเเต่ตรงกันข้าม เขายังติดตามข่าวคราวของเธอเสมอดังเงาตามตัว
และรอเวลาที่จะกลับมายึดครองหัวใจของเธออีกครั้ง!!
หญิงสาวมองลึกลงไปในตาสีน้ำตาลกลมโตนั้นอีกครั้ง คิ้วหนาเข้ม ริมฝีปากหนา จมูกโด่งเป็นสัน
มีลักยิ้มที่ข้างแก้ม และอาการหน้าแดงนั้นก็ไม่ได้รอดพ้นสายตาคนที่อยู่ด้านบนร่างของเธอ
“ว่าไง คิดนานจังคุณหมอจำพี่ได้รึยัง?” ฝรั่งตัวโตเอ่ยถามเสียงนุ่ม
“คิดถึงเมี่ยงที่สุดรู้ไหม? อยู่แบบนี้มันเมื่อย นั่งคุยกันดีกว่าค่ะ”
หญิงสาวดันอกหนาพี่ชายออกอีกครั้งเขาก็ยอมแต่โดยดี
แต่ไม่ลืมที่จะใช้มือใหญ่ดึงแขนหญิงสาวไว้ แล้วประคองเธอให้นั่งหันหน้าเข้าหากัน
ภัทธิยะ ยังคงไล้ริมฝีปากวนเวียนอยู่กับแก้มนวล ไล้ไปทั่วใบหน้านวลของหญิงสาว
จูบแผ่วเบาที่เปลือกตา ไล่ริมฝีปากเรื่อยลงมาตามแนวสันจมูก แล้วหยุดที่ริมฝีปากเล็กอีกครั้ง
ดูดดึงเอาความหวานจากเรียวปากสีชมพูระเรื่อนั้น โดยไม่ได้ซอกซอนเข้าไปข้างใน
เป็นจูบที่อ่อนโยนหวาบหวามไปถึงหัวใจ เพราะความโหยหาอย่างสุดหัวใจของชายหนุ่มเอง
“สวัสดีค่ะคุณแพทริค” คุณหมอสาวเอ่ยทักทายเรียกชื่อเล่นแบบเต็มๆของเขาออกไป
อยากจะเรียกชื่อจริง ก็กลัวว่าจะเป็นทางการเกินไป พร้อมยกมือกระพุ่มไหว้ก้มหน้าลงเล็กน้อย
ความโกรธความน้อยใจที่ถูกเขาตัดรอน ยังเกาะกินใจไม่จางหาย
มันเจ็บลึกๆหนึบในหัวใจอยู่จนถึงเดี๋ยวนี้ หญิงสาวมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจสักเท่าไร
ก็เขาเองไม่ใช่หรือที่ปฏิเสธความรักของเธอแล้วนี่ยังไงอยู่ๆก็โผล่มา
ทั้งที่ไม่เคยส่งข่าวมาให้ทราบเลยตลอดระยะเวลาสิบกว่าปี
ไม่เคยติดต่อหรือส่งข่าวคราวกลับมาให้รู้บ้าง ทั้งที่เป็นคนบอกเองว่าให้เป็นพี่น้องกันแบบเดิม
แต่กลับหายเข้ากลีบเมฆไม่เคยตอบอีเมล์เลยสักฉบับ เมื่อกลับมาเจอกันครั้งนี้
เหตุไฉนจึงได้ทำกิริยารุ่มร่าม เกินความสัมพันธ์ที่เขาเป็นคนขีดเส้นกำหนดมันขึ้นมากันเล่า