The Morning Star สหัชชาตา – นฤมิตา
“ข้าจะเปลี่ยนเสื้อผ้า เรามีเวลาไม่มากแล้ว”
ด้วยฉากบังตาที่ฉลุลายแบบไม่สามารถบดบังสิ่งใดได้มิดชิด
ทำให้คนที่เดินเข้าไปค้นหาเสื้อผ้ามาเตรียมสวมใส่รู้สึกประหม่าสายตาที่จับจ้องอยู่ในระยะห่าง
เพราะเขาไม่เคยเตรียมการไว้สำหรับต้อนรับอาคันตุกะในห้องนี้
และไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าตัวเองจะรู้จักเขิน…ผู้หญิง
“ทำไมท่านไม่หาเสื้อผ้าให้ข้าก่อนที่จะหาให้ตัวเอง”
แทนที่จะละสายตาจากร่างสูงที่กำลังตั้งท่าจะปลดเชือกผูกคอเสื้อ ดีรยา กลับนึกสงสัย
“ชุดเดิมของเจ้าก็สวยดีอยู่”
สวยดีอยู่หรือ…ดีรยาก้มมองตัวเอง
ชุดกระโปรงยาวสีขาวที่เธอสวมอยู่ยังไม่สกปรกมากก็จริง แต่จะเรียกว่าสวยสะอาดก็ไม่ได้
“แต่ข้าอยากใส่ชุดใหม่”
นางยืนยันหนักแน่น เหตุผลหลักคือไม่อยากใส่ชุดที่ใส่มาแล้วสามวันเต็มๆ
“ข้าไม่มีเสื้อผ้าผู้หญิงให้เจ้าหรอก”
อัคคามาร์บอกอย่างอ่อนอกอ่อนใจและลงมือถอดเสื้อผ้าของตัวเอง
โดยไม่หันมองต้นเหตุแห่งความกระอักกระอ่วนใจอีก
“ไม่มีเลยหรือ”
หันมองรอบตัวคล้ายจะสำรวจว่าในห้องนี้พอจะมีอะไรที่เรียกว่าเสื้อผ้าผู้หญิงได้บ้าง
“ไม่มี”
“ท่านมีน้องสาวไหม ข้าอาจจะใส่ชุดของนาง”
“ไม่มี ถึงจะมีแต่เสื้อผ้าของนางก็ไม่ได้อยู่ที่นี่”
คนถูกเซ้าซี่เริ่มหัวเสียที่สาวน้อยวัยละอ่อนยังนั่งมองเขาอยู่หน้าตาเฉย
ในขณะที่เขาถอดเสื้อทั้งนอกและในออกพ้นตัวไปแล้ว และกำลังจะเริ่มถอดกางเกง
“ภรรยาล่ะ”
“ไม่มี ! และไม่มีเสื้อผ้าผู้หญิงแม้แต่ชิ้นเดียวในปราสาทของข้า”
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาต้องตวาดเสียงดังกลับไปเพียงแค่ได้ยินคำว่าภรรยา
ครั้นเมื่อเห็นนางสะดุ้งตาโตมองอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวก็ยิ่งทำให้เขาไม่ปกติ
ในเมื่ออยากมอง ก็เชิญมองให้เต็มอิ่ม
อัคคามาร์ ดึงเส้นหนังรัดกางเกง ปลดกระดุมไม้สามเม็ดแล้วชำเลืองหางตา
มองไปเห็นดวงตากลมโตของสาวน้อยเบิกกว้าง รอยยิ้มลึกลับกระตุกขึ้นที่มุมปากก่อนจะตั้งท่ารูดมันลงจากสะโพก
ดีรยาอ้าปากกว้าง ผวาตัวลนลานหันหลังให้ ก่อนจะผุดลุกขึ้นอย่างขัดเคือง
“ถ้าเช่นนั้น ข้าจะหาชุดใส่ให้ตัวเอง”
“ข้าว่าเจ้าคงทำแบบนั้นได้ไม่ยาก”
ในเมื่อนางเป็นดาวเหมื่อนมีพลังวิเศษมากมาย ทำไมจะเสกเสื้อผ้าให้ตัวเองสักชุดไม่ได้
“จากเสื้อผ้าของท่าน”