มนต์รักใต้เงาใจ – อมินดา
“ดูท่าว่าเธอจะไม่รักชีวิตและอยากไปจากที่นี่จนตัวสั่น”
“ใช่ ฉันต้องการไปให้พ้นจากเรือมหาโจรที่มีคนชั่วๆ อย่างคุณอยู่ โอ๊ยยย!!”
แรงบีบยิ่งอัดแน่นเมื่อหญิงสาวแสดงความผยอง แต่น่าหงุดหงิด
ที่ชายหนุ่มยังเห็นความเด็ดเดี่ยวในแววตาของเธอ แทนที่จะเป็นความหวาดกลัวจนหัวหด
“ได้! ฉันจะให้เธอไปจากที่นี่ตามที่ขอ ตอนนี้! และเดี๋ยวนี้!”
“ว่ายังไงนะครับ/คะนาย!”
แทบจะเป็นเสียงเดียวกันกับที่นางบัวคำและลูกเรือทั้งหมดอุทานออกมา
ทุกคนเริ่มผวากลัวเหลือเกินว่าเจ้านายจะลงโทษด้วยความป่าเถื่อน
ไม่ทันไรร่างบางก็ถูกกระชากลากถูออกไปจากห้อง
เหล่าลูกเรือคนอื่นๆ จึงเริ่มทยอยกันออกมา เพราะได้ยินเสียงเอะอะ
แต่เจ้านายกลับไม่มีลดละ เดินมุ่งหน้าไปที่กลางลำเรือ
จัดการเหวี่ยงร่างเล็กที่เอาแต่ดิ้นรนกระแทกกับขอบแข็งๆ ของมัน
ตอนนี้สีหน้าทุกคนต่างซีดเผือด ไม่มีใครกล้ากระดิกหรือเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งนั้น
“กระโดดลงไปซะ! อยากไปจากเรือชั่วๆ นี่หนักไม่ใช่เหรอ ฉันให้โอกาสเธอแล้วไง โดดลงไปเดี๋ยวนี้!”
เสียงเข้มตะเบ็งอย่างโหดเหี้ยม ทุกคนมองไปที่หญิงสาวด้วยเวทนา
แต่ไม่มีใครกล้าเสนอหน้าทำอะไร นางบัวคำเป็นเพียงผู้เดียวที่คิดจะวิ่งเข้าไปหา
แต่ก็ถูกมือหนายกขึ้นมาขวาง สีหน้าบอกว่าเอาจริง
“หยุด! อย่าได้คิดที่จะเข้าไปช่วยแม่คนนี้เป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือน”
“แต่ว่า…”
ยังไม่ทันที่นางจะโต้แย้ง หญิงสาวก็ลุกขึ้นมาจ้องหน้าศิวะด้วยดวงตาที่เด็ดเดี่ยว คงจะนึกชังเขาเต็มหัวใจ
แต่เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าเธอไม่มีท่าทีขยับเขยื้อนหรือเปล่งเสียงใดๆ
จึงคิดว่า แม้แววตาของเธอจะผยอง แต่ข้างในคงจะกลัวจนสั่นงันงก
ริมฝีปากหยักบิดขึ้นพร้อมรอยยิ้มแสยะแทนการตราหน้าว่าที่แท้เธอก็ไร้น้ำยา
“ฉันจะปล่อยให้แม่นี่อยู่ข้างนอก พวกแกทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนก็ห้ามให้ที่ซุกหัวนอน
ส่วนเธอ…ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็เชิญกระโดดลงไปจากเรือของฉันได้ทุกเวลา”
ร่างสูงหมุนตัวคิดที่จะกลับเข้าห้องพัก ด้วยแน่ใจว่าหญิงสาวจะไม่มีวันกระดิกตัวไปไหน
นอกจากทรุดกายนั่งร้องห่มร้องไห้ สำนึกว่าไม่ควรลองดีกับคนอย่างเขา
แต่ที่ไหนได้…ทันทีที่ลูกเรือพากันแหกปากตะโกนลั่น สีหน้าตกใจสุดชีวิต
ชายหนุ่มก็รีบหันหลังกลับ ทันเพียงแค่เห็นร่างเล็กๆ กระโจนสู่ท้องทะเลดำมืดได้อย่างกล้าบ้าบิ่น
“ยายบ้าเอ๊ย!”
เสียงสบถดังขึ้นด้วยความตกใจ ไม่คิดจริงๆ ว่าผู้หญิงรูปร่างท่าที
เหมือนหลุดมาจากวงศ์ผู้ดีจะกล้าทำอะไรบ้าๆ แบบนี้
“นานแล้วยังไม่เห็นน้องเขาโผล่ขึ้นมาเลย”
“จริงด้วย นี่ถ้าแม่หนูคนนี้เป็นอะไรไป นั่นก็เป็นเพราะความป่าเถื่อนของคุณศิวะเพียงคนเดียว”
ทุกคนรีบมาออกันที่ขอบเรือ ตามมาติดๆ ด้วยการกล่าวโทษของนางบัวคำอย่างร่ำไห้
สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว ยังไม่เห็นว่าหญิงสาวที่อวดดีที่สุด
เท่าที่ในชีวิตของเขาเคยพบเจอจะโผล่ขึ้นมา
ศิวะจึงสบถเสียงดัง ทุบกำปั้นไปที่ขอบเรือ ก่อนถอดเสื้อยืดตัวใหม่ที่เพิ่งจะเปลี่ยนหลังอาบน้ำชำระกาย
แล้วกระโจนสู่ห้วงมหาสมุทรเป็นครั้งที่สอง เพื่อช่วยชีวิตผู้หญิงที่เป็นใครมาจากไหน หรือแม้แต่ชื่ออะไรเขาเองก็ยังไม่รู้