ดั่งพรหมสันนิวาส – ชฎายุ
คงเพราะพระพรหมมีอารมณ์ขัน เธอถึงได้กลิ้งหัวคะมำลงข้างทาง
แล้วย้อนเวลากลับไปในอดีตซะอย่างนั้น
แต่ที่นี่คือสยามประเทศ พุทธศักราช ๒๔๐๓ เชียวนะ
แล้วสาวยุคดิจิทัล 4.0 อย่างเธอ จะทำให้คุณหลวงรูปหล่อ
ว่าที่สามีในอีกไม่กี่เพลาได้ปวดเศียรเวียนเกล้าขนาดไหนกัน
หญิงสาวค่อยๆ โผล่ศีรษะขึ้นมาเหนือผิวน้ำ
แต่แล้วสิ่งแรกที่เห็นคือสายตาคมกริบที่จ้องตอบกลับมา
“คุณหลวง” เอ่ยเสียงเบาเหมือนรำพึงกับตัวเองเสียมากกว่า
“แม่ยี่หร่า” เสียงนั้นทุ้มดุ กังวาน และฟังชัดเจนเป็นที่สุด
เยอร์บีร่า ยิ้มแหย นึกในใจว่าทำไมเธอต้องมาเจอกับคุณหลวง
ในสภาพนี้ด้วยนะ แต่… ถ้าคิดในแง่ดีก็คงดีกว่าเจอพวกบ่าวผู้ชายเป็นโขยงล่ะนะ
“หล่อนลงไปว่ายน้ำรึ” ท่านถาม
“ค่ะ ก็ทำนองนั้น” เธอตอบ
“แล้วหล่อนจะขึ้นจากน้ำหรือยัง” ท่านซักไซ้ต่อ
“ฉันก็อยากจะขึ้นไปนะคะ” เธอบอกเหมือนจนใจ
“แล้วเหตุใดหล่อนจึงไม่ขึ้นมา”
เยอร์บีร่ายังซ่อนในกอบัว โผล่แต่ส่วนหัวให้คุณหลวงเห็นหน้าเหลอหลา
เธอก็โผล่ขึ้นมาได้แค่นี้แหละ หวังว่าในคลองคงไม่มีปลิงหรอกนะ
ไม่อยากคิดเลยว่าถ้ามันมุดเข้ามาตรงนั้นหรือตรงไหนแล้วเธอจะเอาออกอย่างไร
“ผ้านุ่งมัน… น่ะค่ะ”
เยอร์บีร่าตอบงึมงำด้วยเสียงขาดหายเหมือนคนพูดปริ่มน้ำ
“หล่อนว่ากระไรนะ ฉันไม่ค่อยได้ยิน”
อายนะเนี่ย เยอร์บีร่าแก้มเรื่อทั้งที่ตัวเริ่มซีด แต่มาถึงขั้นนี้คงต้องตอบ
คุณหลวงไปตามจริงเพราะเธอแช่น้ำอยู่นานจนเริ่มหนาวสั่นแล้ว
“ผ้านุ่งอาบน้ำของฉัน มัน… หลุดหายไปค่ะ”
เยอร์บีร่ากลั้นใจร้องตอบ ทั้งยังเสียงดังในประโยคท้ายจนคุณหลวงสะดุ้ง
ท่านรีบเหลียวซ้ายแลขวาลุกลน เกรงจะมีใครผ่านมาแล้วได้ยินหล่อนเข้า
พลันใบหน้าเคร่งขรึมนั้นก็เหมือนจะแดงก่ำยิ่งกว่าแม่ยี่หร่าเสียอีก