เจิ้งฝูสื่อ จอมนางตำหนักเย็น (นิยายจีน) – จั้วเจีย
พิชชาพร ประสบอุบัติเหตุจนวิญญาณระเหเร่ร่อนมาเข้าร่างของ เสวี่ยไฉเหริน
สนมยศต่ำที่ถูกประหารด้วยการพระราชทานแพรขาวสามศอก และฟื้นขึ้นมาจากความตาย
จึงได้รับชื่อใหม่เป็น เจิ้งฝูสื่อ
นางอยู่ในร่างใหม่อย่างงงงวย ใช้ชีวิตต่อไปอย่างงุนงง ท่ามกลางสายตาเกลียดชัง
หญิงสาวลดทอนความน่ากลัวของตำหนักเย็นในตำนานด้วยการปฏิรูปตำหนักเย็น
ให้กลายเป็นบ้านพักตากอากาศ มีงานอดิเรกคือการหลอกใช้ขันทีประจำพระองค์
ชงชา ถางหญ้า ปลูกผัก ทั้งยังหักกิ่งท้อไล่ฟาดองครักษ์ที่เข้ามากวนใจนางแก้เบื่อไปวันๆ
แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงนั่นคือ นางไม่รู้ว่า หยางจินหลงฮ่องเต้ มักปลอมตัวเป็นองครักษ์
มาสังเกตพฤติกรรมของนางอยู่บ่อยครั้ง! เพราะเหตุใดกันเล่า นางก็ใคร่รู้ยิ่งนัก…
“โอ๊ย โอ๊ย! เจ้า! เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงตีข้า!”
เขากระโดดหลบเจ้ากิ่งไม้ขนาดเล็กกิ่งนั้น
เพราะมันสร้างความเจ็บปวดแก่เขาอย่างมหาศาล!
“ทำไม! ทำไมข้าจะลงโทษเจ้าไม่ได้ เจ้าผีบ้า! เจ้ากล้าหยามเกียรติข้า!
ในเมื่อเจ้าไม่เกรงอาญาจากฝ่าบาท ข้าก็จะลงโทษเจ้าเอง! เจ้าผียโสโอหัง!”
นางวิ่งไล่องครักษ์ไปรอบตำหนักอย่างไม่ห่วงภาพลักษณ์
“เจ้าเป็นเพียงสนม แต่กลับกล้าทำร้ายข้า แม้แต่มารดาของข้า
ยังมิเคยลงมือทำโทษ เจ้าช่างกล้ายิ่งนัก!”
หลังจากวิ่งนำมาพอสมควรเขาจึงหันกลับไประบายโทสะบางส่วน
ใส่นางอย่างโกรธแค้น แต่ทำอะไรนางมิได้
“ก็เพราะเจ้าไม่เคยถูกทำโทษอย่างไรเล่า
ถึงมิเกรงกลัวอาญาและเคารพกฎของฝ่ายใน
ข้าจะตีเจ้าแทนบรรพบุรุษของเจ้าเอง ดีกว่าในภายภาคหน้า
ที่เจ้าโดนประหารเพราะความยโสของตนเอง!”
“ข้าสำนึกแล้ว อย่าตีข้าอีกเลย หากผู้ใดผ่านมาเห็น
จักคิดว่าข้าและท่านกำลังเย้าหยอกกันเยี่ยงคนรัก”
เขาข่มกลั้นอาการเจ็บก้นไว้อย่างมิดชิดพร้อมกับยั่วยวนนางกลับคืน
ส่วนเจิ้งฝูสื่อก็ทิ้งไม้ลงเช่นกัน ไม่ใช่ตกหลุมพรางของเขา
แต่นางเหนื่อยหอบสุดจะบรรยายได้เป็นภาษามนุษย์แล้วเช่นกัน
“ถ้าเจ้าสำนึกจริงอย่างปากว่า
ก็ไปหาอุปกรณ์ถางหญ้าพรวนดินมาให้ข้าในวันพรุ่งนี้
หากมิทำตาม ข้าจะถวายฎีกาว่าเจ้าล่วงเกินข้าจนเสียนวล
หึ! ต่อให้มีสิบหัวก็มิพอประหารแน่นอน”