สายการบินเสี่ยงรัก : The Wedding – Shayna
อุบัติเหตุเครื่องบินอับปางส่งให้ ฌอน ปีเตอร์สัน สูญเสียความจำในช่วงสองปีให้หลัง
เมื่อพบกับความจริงที่ว่าจะต้องเข้าพิธีวิวาห์กับคู่หมั้นที่กลายเป็นคนแปลกหน้า
จึงขอเลื่อนงานออกไปอย่างไม่ลังเล โดยไม่รู้ว่าผลของการตัดสินใจนั้นจะสั่นคลอนความมั่นใจของ มาริสา
แถมการเข้ามาของ เอ็มม่า… ผู้หญิงที่ช่วยชีวิตเขาจากอุบัติเหตุในครั้งนั้น
และกลายเป็น ‘นางฟ้า’ กับ ‘คนพิเศษ’ ในหัวใจของเขา
ทำให้หัวใจอีกดวงของคนที่เคยถูกเรียกว่า ‘นางฟ้า’ กลัดหนองขึ้นทุกวัน
เธอควรจะคืนแหวนหมั้นและอิสรภาพให้เขาใช่ไหม ในเมื่อผู้หญิงคนนั้นคือคนที่ให้ชีวิตใหม่แก่เขา?
“ริสา !”
ฌอนอุทานลั่นเมื่อก้มลงมองผ่านกระจกจากประตูฝั่งผู้โดยสาร
เข้าไปเห็นใบหน้าเปื้อนเลือดของคู่หมั้นสาว
สภาพของหล่อน เหมือนคนสะลืมสะลือจะหลับมิหลับแหล่จนเขารีบทุบกระจกเรียก
“คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่า ปลดล็อกประตูได้มั้ย”
“คุณเขาบอกว่าปลดล็อกแล้ว แต่ผมเปิดยังไงก็เปิดไม่ได้เลยครับ สงสัยระบบไฟฟ้าของรถได้รับความเสียหายจนไม่ทำงาน ผมคิดว่าเราอาจต้องทุบกระจก เมื่อกี้ผมโทร. เรียกรถพยาบาลแล้ว คิดว่าอีกสิบนาทีน่าจะถึงนี่ครับ”
หนุ่มคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ข้างประตูฝั่งคนขับตะโกนบอกด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก
ยังไม่ทันที่ฌอนจะตอบอะไรกลับไป คนที่อยู่ในรถก็เริ่มเคลื่อนไหว
หญิงสาวปลดเข็มขัดนิรภัย ยันตัวออกจากถุงลมนิรภัย และโน้มไปทางเบาะฝั่งผู้โดยสาร
เอื้อมมือไปปลดล็อกประตูอย่างเก้ๆ กังๆ แต่ทันทีที่ทำได้
คนที่รอท่าอยู่แล้วก็รีบกระชากประตูให้เปิดออก
“คุณคะ อย่าเพิ่งเคลื่อนย้ายคนเจ็บออกจากรถนะคะ”
ผู้หญิงคนหนึ่งรุดเข้ามาบอกก่อนที่ฌอนจะเริ่มลากคนเจ็บออกจากรถ
“แต่คู่หมั้นของผมกำลังเจ็บ คุณก็เห็นแล้วนี่ว่าเลือดไหลอาบหน้าของเขาเลย”
ชายหนุ่มกล่าวพลางเช็ดเชือดออกจากหน้ามาริสา
“ฉันรู้ค่ะ ฉันเป็นพยาบาล แต่ยิ่งเขาได้รับบาดเจ็บมากอยู่แล้ว การเคลื่อนย้ายที่ผิดวิธีอาจยิ่งทำให้อาการหนักมากยิ่งขั้นนะคะ เอาผ้าเช็ดหน้านี่กดห้ามเลือดที่หน้าผากให้เธอก่อนเถอะค่ะ ผ้านี่สะอาด ฉันยังไม่ได้ใช้”
พยาบาลวัยกลางคนยื่นผ้าเช็ดหน้าขาวสะอาดให้คนฟัง
ซึ่งรีบนำไปกดปิดปากแผลบริเวณหน้าผากที่เลือดยังไหลไม่หยุด
“ทำใจดีๆ ไว้นะริสา อย่าหลับนะ”
“ฌ…ฌอน”
เจ้าของดวงตาหรี่ปรือมองเขาทั้งน้ำตา ขณะค่อยๆ เคลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นมากางออก
พอเห็นว่าของเหลวที่อยู่บนนิ้วคือเลือดก็เริ่มสะอึกสะอื้น
“นี่มันเลือดอะไร คุณได้รับบาดเจ็บตรงไหนอีกน่ะริสา”
ฌอนละล่ำละลักถามเสียงสั่น
“ลูก”
มาริสาสะอื้นจนไหล่สะท้าน ร่างกายสั่นเทิ้มขึ้นมาอย่างเหนือการควบคุม
เมื่อรู้สึกได้ว่าเลือดกำลังทะลักออกมาบริเวณกึ่งกลางกาย
“ลูก?” นักธุรกิจหนุ่มตาเบิกโพลง
“ล…ลูกของเรา ริสา…ทะ…ท้องค่ะ”
เสียงที่ดังลอดริมฝีปากคนพูดเบาไม่ต่างเสียงกระซิบ
ทว่าในความรู้สึกของคนฟังอย่างฌอน มันกลับดังก้องโสตประสาทของเขาราวกับเธอตะโกนใส่หู
“ท้องงั้นเหรอ ทำไมคุณถึงเพิ่งมาบอกผมเอาตอนนี้”
ฌอนถามเสียงเครือ เพิ่งรู้ตัวว่ากำลังร้องไห้ก็เมื่อพยายามจ้องใบหน้าเปื้อนเลือดของเธอ
แล้วภาพที่ได้รับกลับพร่ามัวจนต้องรีบปาดน้ำตาออก
ทว่าพอได้จ้องคนเจ็บอย่างเต็มตาอีกครั้ง เขาก็พบว่าเปลือกตาของเธอปิดลงสนิทแล้ว
“ริสา…คุณได้ยินที่ผมพูดหรือเปล่า ลืมตาขึ้นมาคุยกับผมสิ ริสา…คุณจะเป็นอะไรไปไม่ได้นะ ผมรักคุณ…ผมรักคุณนะริสา”