ต้อนรักเข้าสู่ประตูใจ – กลิ่นแก้ว
เมื่อหนุ่มคนหนึ่งตกหลุมรักแรกพบสาวงามในสเปค แต่เขากลับไม่ใช่สเปคของเธอ
ด้วยข้ออ้างฉกาจฉกรรจ์ ‘แก่’ และ ‘ตัวดำ’ ชาครีย์ หรือจะยอมรับได้
ในวันที่โอกาสเป็นใจเธอหลุดเข้ามาสู่อุ้งมือ ปฏิบัติการต้อนเธอเข้าเล้าหัวใจจึงเปิดฉากขึ้น
ลูกอ้อนลูกอ่อยมีเท่าไหร่ขนมามัดใจเธอให้หมด งานนี้นายชาครีย์ผู้ ‘เล่นใหญ่’
จะปล่อยลูกแกะน้อยหลุดมือไปได้ก็ให้รู้ไปสิ!
ไม่มีลูกน้องคนใดให้เห็น ป่านนี้คงอยู่ในที่พักกันหมดแล้ว
และคงคิดว่าเขาทำอะไรกันตาแน่ๆ ถึงได้หายหัวไปหมด ไม่มาอยู่ให้รกหูรกตาแถวนี้
ชาครีย์หัวเราะหึๆ เดินกลับเข้ามาในเรือนพักซึ่งมีแค่ห้องกว้างเดี่ยวๆ
เดินเลยเข้าไปในห้องน้ำ รอบอ่างยังเปียกเปรอะ เสื้อผ้าทั้งของเธอของเขาเกลื่อนพื้น
ชายหนุ่มเก็บรวบรวมมาทุกชิ้น ของตัวเองจัดการบิดน้ำออกแขวนไว้ที่ตะขอ
รอแม่บ้านมาเก็บไปซักพรุ่งนี้ ทว่าเสื้อผ้าของหญิงสาว ชาครีย์นำมาที่อ่างล้างหน้า
ลงมือซักให้ โดยเฉพาะชั้นในถ้าไม่ซักพรุ่งนี้แม่เจ้าประคุณก็ไม่มีอะไรใส่
จะไปรบกวนให้คนในบ้านช่วยซักก็เอิกเกริก
เขาบรรจงซักแต่ละชิ้นอย่างประณีต ขยี้ผ้าชิ้นน้อยๆ
สลับกับยกชูขึ้นดูพลางก็อมยิ้ม หน้าเห่อร้อน จั๊กจี้ที่ในหัวใจ
เฮ้ย! ว่าที่เมีย ฝึกไว้น่า อีกหน่อยต้องซักผ้าให้เมียจะได้ชิน
เมื่อจัดการแขวนเสื้อผ้าของหญิงสาวผึ่งลมไว้ เปิดน้ำในอ่างออกทิ้งเรียบร้อยแล้ว
ชาครีย์มาล้มตัวนอนบนโซฟา พลางมองคนที่นอนหลับสนิทบนเตียง
ไม่รู้ตื่นมาพรุ่งนี้จะว่าอะไรหรือเปล่า ยัยแก้มบวมเอ๊ย จะคิดจะรู้สึกอย่างไรก็ไม่รู้
หวังว่าคงไม่อาละวาดนะ
เมื่อชาครีย์โผล่หน้าออกมาจากเรือนเล็กลูกน้องก็มาด้อมๆ มองๆ
กันอยู่เต็ม บ้างยิ้มกรุ้มกริ่ม บ้างยิ้มมีเลศนัย
“อะไรพวกมึง ไม่ต้องมายิ้มเลย ไม่มีอะไรโว้ย”
“แล้วพี่ยิ้มทำไม”
ใครคนหนึ่งถาม ชาครีย์ก็เลยต้องถามตัวเอง…นี่กูยิ้มอยู่เหรอ?
“หน้าแดงด้วยนะพี่”
คนเตร่เข้ามาใกล้ตั้งข้อสังเกต
“เฮ้ย บ้า! ไปไกลๆ เลยไปพวกมึง แล้วมึงอย่าสะเออะคิดอะไรไม่เป็นเรื่องนะ
ไม่มีอะไรทั้งนั้น มึงคิดว่าลูกพี่มึงเป็นคนยังไง”
คนหน้าแดงเอ็ดตะโรลั่น สวดเจริญพรลูกน้องไปอีกยกก่อนกลับเข้ามาข้างใน