กำแพงสันนิวาส (นิยายจีน) – วรรณศุกร์
ด้วยลิขิตแห่งสวรรค์…ท่ามกลางไฟสงคราม
ดรุณีโฉมสะคราญปานบุปผา
พานพบขุนพลหนุ่มฉายา “พยัคฆ์คะนอง“
ก่อกำเนิดสัมพันธ์ที่กำแพงสันนิวาสยังมิอาจขวาง
ผูกพันลึกซึ้ง…มิจำพรากจากจรชั่วนิจนิรันดร์
ในความมืดสลัว จันทร์สาดแสงเลือนราง
หยางจื่อฟง มองเห็นใบหน้ารูปไข่
ปราศจากหนวดเคราทว่าสกปรกมอมแมมไปด้วยฝุ่นดิน
ปลายจมูกเรียวมนเชิดขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากเม้มแน่นอย่างดื้อรั้น
ในขณะที่ดวงตาทั้งคู่สุกใสดั่งดวงดาว ทอประกายแข็งกร้าวเด็ดเดี่ยว
ดวงตาคู่นี้มีพลังประหลาด สามารถดึงดูดหัวใจของขุนพลหนุ่ม
ผู้มีฉายา ‘พยัคฆ์คะนอง’ ได้อย่างน่าอัศจรรย์!
“ช่วยด้วย! ทางนี้มีคนร้าย!”
หยางจื่อฟงไม่มีทางเลือก นอกจากจำต้องถอยหนี
เผ่นโผนโจนทะยานหายไปในเส้นทางมืดมิดด้วยความว่องไวปานภูตผีปีศาจ
“แมวขโมยชั่วร้าย! คืนดาบใบหลิวของข้ามาเดี๋ยวนี้นะ!”
หยางจื่อฟงได้แต่อมยิ้ม และอีกในชั่วอึดใจต่อมาจึงค่อยหวนรำลึกได้ว่า
ตอนปราดเข้าไปแย่งชิงดาบใบหลิวมาจากเด็กหนุ่มผู้นั้น
จมูกของเขาพลันได้กลิ่นหอมละมุนของพรรณบุปผาชนิดหนึ่ง
สุ่ยเซียน… บุปผาสีขาวกลีบบางริมลำธารอันร่มรื่น
‘เหลวไหลน่า…บุปผาใดจะเบ่งบานอยู่ท่ามกลางไฟสงครามเช่นนี้ได้
หยางจื่อฟงเอยหยางจื่อฟง ตัวเจ้าช่างเลอะเลือนยิ่งนัก
เมื่อครู่มีโอกาสเข่นฆ่าสังหารศัตรู ไยจึงมิรีบชิงลงมือ ปล่อยให้โอกาสดีเลิศหลุดลอยไป
แล้วตอนนี้ยังมัวงมงายคิดพร่ำเพ้อถึงบุปผาอันใดอยู่อีกเล่า’
คืนนั้น ตลอดระยะเวลาที่ควบขี่อาชากลับคืนสู่ค่ายทหารเมืองหยั่นเฉิง
สายลมยามราตรีรำเพยพัดแผ่วเบา
ระลอกแล้วระลอกเล่า ท่ามกลางละอองน้ำค้างชุ่มฉ่ำ หนาวเย็น
กลิ่นหอมของดอกสุ่ยเซียนยังคงรวยระริน
ติดตรึงอยู่ในใจของขุนพลหนุ่มสืบไปจวบจนถึงรุ่งเช้า…