ฤทธิ์รักรอนใจ – มนต์จันทร์
“ขอร้อง.. คืนลูกให้พี่เถอะนะ”
สองมือพนมขึ้น ก่อนที่ อธิวรรธน์ จะก้มลงกราบที่ตักของหญิงสาว
น้ำตาลูกผู้ชายหลั่งรินออกมาเป็นสาย
หัวอกของหญิงสาวสั่นสะท้าน มันเจ็บปวดและทรมานไม่แตกต่างจากเขา
“อย่าใช้น้ำตาของพี่มาบีบบังคับเบลล์ เพราะครั้งหนึ่งเบลล์
เคยใช้มันอ้อนวอนให้พี่หยุดที่เบลล์ นักศึกษามหา’ ลัย
ยอมทอดกายให้นายแพทย์หนุ่ม เธอไม่ได้ต้องการทรัพย์สินหรือเงินทอง
หากแต่ต้องการเพียงหัวใจรักที่ซื่อสัตย์และภักดีจากเขา
แต่สิ่งที่ผู้หญิงโง่เง่าคนนั้นได้รับ มันคือความเจ็บปวดแสนสาหัส
ในวันที่เบลล์เดินตากฝนกลับหอ ในวันที่เบลล์ต้องแบกความเสียใจ
กลับไปหาแม่ที่จังหวัด และในวันที่ครอบครัวของเบลล์
ต้องถูกตราหน้าว่ามีลูกสาวไม่รักดี ท้องไม่มีพ่อ
พี่ไปอยู่ไหน พี่อยู่กับใคร อยู่กับเบลล์หรือเปล่า ก็ไม่..
ตอนนั้นชีวิตพี่โคตรมีความสุข แต่เบลล์ทุกข์และเจ็บปวดแทบปางตาย
ในวันนี้ วันที่พี่ไม่เหลือใคร พี่กลับจะมาแย่งหัวใจและความสุขไปจากอกเบลล์”
ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครปริปากพูดอะไร ทั้งคู่ปล่อยให้สายธารที่รินไหล
ฟ้องว่าข้างในมันกำลังรู้สึกอะไรอยู่ ไม่มีใครมีความสุข
กับสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกคนต่างแบกรับความทุกข์
“ฮึก! ฮือๆ ปล่อยเบลล์กับลูกไปเถอะนะคะ ลืมพวกเราซะ
แล้วไปเริ่มต้นใหม่ เบลล์เชื่อว่าผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่างพี่
หาผู้หญิงดีๆ สักคนมาสร้างครอบครัวด้วยได้ไม่ยาก
อย่าบีบคั้นให้กันและกันเจ็บปวดอยู่อย่างนี้เลย”
เธอเอ่ยทั้งน้ำตา
คนมองร้าวรอนจนแทบใจสลาย หากว่าย้อนคืนกลับไปได้
เขาจะไม่ทำลายหัวใจบริสุทธิ์ของผู้หญิงที่ชื่อ นีรนารา
หากแต่กาลเวลามีแต่เดินไปข้างหน้า ไม่สามารถย้อนคืน
อดีตอันเลวร้าย ไม่มีใครสามารถกลับไปแก้ไขได้
ปัจจุบันเท่านั้นที่เป็นตัวกำหนดอนาคตว่าจะเป็นเช่นไร
และตอนนี้.. นีรนาราขอให้เขาเดินออกจากชีวิตเจ้าหล่อน
พร้อมทั้งทิ้งทุกอย่างเอาไว้ข้างหลัง ทิ้งแม้กระทั่งความทรงจำเรื่อง ‘ลูก’
“พี่.. ขอโทษ พี่ทำใจทิ้งเลือดเนื้อเชื้อไขแล้วทำเป็นไม่รู้
ว่ามีเขาไม่ได้จริงๆ เบลล์รักลูกมากแค่ไหน พี่เองก็ไม่แตกต่าง”
ทุกอย่างบนโลกใบนี้ที่นีรนาราเอ่ยปากขอ ถ้าหากว่าเขาสามารถ
ทำให้เจ้าหล่อนได้ ผู้ชายคนนี้ไม่ลังเลเลยที่จะทำ
ยกเว้นเพียงแค่เรื่องเดียว..
“พี่ไม่ได้รักลูกจริงๆ หรอก พี่แค่ไม่มีใคร”
“อย่าดูถูกหัวใจพี่”
เรียวปากอิ่มแสยะยิ้ม
“เบลล์ ‘ดูถูก’ ไงคะ
ถ้าเวลานี้พี่มีผู้หญิงล้อมหน้าล้อมหลังอย่างแต่ก่อน
พี่คงไม่ต้องการเราสองคนแม่ลูก อย่ามาทำตัวดีเมื่อมันสายไป
เพราะนอกจากจะไม่มีค่าอะไร มันยังทำให้พี่ดูน่าสมเพช”
บรรยากาศในช่วงบ่ายปลายฤดูหนาวก้าวเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศไทย
อากาศเย็นสบายเสียจนคนเป็นยายนึกครึ้มพาหลานสาว
เพียงคนเดียวออกมาเที่ยวที่สวนสาธารณะหน้าหมู่บ้าน
“ยายจ๋า”
ดวงตาใสแป๋วมองไปที่รถขายไอติม
“จ๋า ใบบัวอยากกินเหรอคะ”
“อยากกินจ้า” ปากเล็กฉีกยิ้มแฉ่ง
“เดี๋ยวยายพาไปซื้อ”
วันวิสาจูงแขนหลานไปที่รถขายไอติมซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่ทั้งคู่นั่งปิกนิก
“กินอะไรดีแม่หนู” ลุงขายไอติมเอ่ยถามหนูน้อย
“ไอติม”
“มีหลายรสเลยนะ ชอบกินอะไรล่ะ”
เด็กหญิงผู้ไม่รู้ว่ารสชาติของไอติมมีอะไรบ้าง
ได้แต่จ้องตากับคุณลุง ทว่าไม่ได้ตอบคำถาม
“ไอติมถังนี้เท่าไหร่ครับ”
ทั้งสามหันไปมองผู้มาใหม่ ชายหนุ่มรูปร่างสูงกำยำ
หน้าตาท่าทางดูดีและมีภูมิฐานจนสาวๆ ที่อยู่แถวนี้แอบมองตามกันเป็นแถว
“หมายถึงทั้งถังเลยเหรอพ่อหนุ่ม”
อธิวรรธน์พยักหน้าพลางส่งยิ้มให้คนถาม
“ครับผม”
“เหลือให้แม่หนูคนนี้สักแท่งได้ไหมคุณ”
คนขายนึกสงสารเด็กหญิงตาแป๋ว จึงขอไอติมชายหนุ่ม
อธิวรรธน์ค่อยๆ หันไปมองหนูน้อย วินาทีที่ดวงตาทั้งสองคู่ประสานกัน
ราวกับสายใยความผูกพันแห่งสายเลือดได้หลอมรวมเป็นหนึ่ง
ความตื้นตันแน่นตื้อในอก หัวใจเต้นระรัวราวกับมีกลอง
นับร้อยตัวพร้อมกันตีรัวอย่างไม่หยุดยั้ง
หัวใจคนเป็นพ่ออิ่มเอิบ มันสุขล้นเสียจนยากจะบรรยาย
“หลายแท่งก็ได้ครับ ผมซื้อแจก”
เป็นครั้งที่สองที่เขาได้พบหน้าลูก ไม่สิ! ครั้งที่สามต่างหากเล่า
ครั้งแรกที่ร้านกาแฟในโรงพยาบาล ครั้งที่สอง.. ที่งานแต่งของแพรไพลิน
ส่วนครั้งนี้พิเศษสุด เมื่อได้เห็นหน้าลูก ราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน
ชีวิตสีเทาหม่นกลับกลายเป็นสีขาวนวลสว่าง
เห็นหนทางที่จะพาตัวเองก้าวไปสู่จุดหมาย
“ใจดีจังคุณ ทำบุญวันเกิดเหรอ”
ลุงคนขายที่ปกติจะเห็นคนใจดีมาซื้อไอติมแจกยกถังแบบนี้
เนื่องในวาระโอกาสพิเศษ เช่น วันเกิด จึงเอ่ยถาม
เพราะคิดว่าชายหนุ่มตรงหน้าเป็นหนึ่งในนั้น
อธิวรรธน์ส่ายหัวเป็นเชิงปฏิเสธ
“เปล่าครับ”
เขาหันไปมอง ‘ลูกสาว’ “หนูอยากได้แท่งไหนล่ะ”
นี่ควรจะเป็นประโยคแรกที่พ่อพูดกับลูกงั้นหรือ
ช่างน่าขันนัก เขาไม่อยากจะเชื่อ
“ไอติม”
เด็กหญิงยังยืนยันคำเดิม ด้วยไม่รู้ว่าไอติมมีรสชาติอะไรบ้าง
“งั้นเอาแท่งนี้ครับ”
อธิวรรธน์หยิบไอติมสีสวยซึ่งจำได้ว่า
‘แม่ของเด็กหญิงตรงหน้า’ ชอบกินรสชาตินี้
“ขอบคุณ คุณลุงสิคะใบบัว”
คนเป็นยายบอกหลาน
“ขอบคุณจ้า” ใบบัวยกมือไหว้
ปลื้มปริ่มยิ่งนัก อธิวรรธน์รู้สึกว่าขอบตาของเขาผ่าวร้อน
มันปีติเสียจนแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวแกะให้นะ”
ซองที่ห่อหุ้มถูกแกะออก อธิวรรธน์นั่งย่อตัวลงนั่งย่องๆ
ตรงหน้าลูกสาว เขายื่นไอติมสีสวยไปตรงหน้า
“ใบบัว..” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยออกมาราวกับกำลังละเมอ