ก็รักมันปักใจ – ไม้พาย
ในเวลาเที่ยงคืนครึ่ง ท้องฟ้าโดนฉาบไว้ด้วยสีดำสนิท
บนถนนใหญ่นานๆจะมีรถแล่นผ่านมาสักคัน ในตรอกแคบเล็ก
ไฟทางที่มีอยู่น้อยนิดติดบ้างไม่ติดบ้าง แต่ถึงกระนั้นก็ยังพอ
จะมองเห็นเงาตะคุ่มๆเป็นรูปเป็นร่างของสิ่งต่างๆในซอยได้บ้าง
ท่ามกลางความมืด เสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังขึ้น และหยุดลง
เมื่อเจ้าของฝีเท้ามองเห็นมองเห็นร่างของชายคนหนึ่ง
นอนคว่ำหน้าอยู่ริมรั้วบ้านของเธอ ผักบุ้งหญิงสาวที่กลับมา
จากรับจ๊อบเป็นสาวเชียร์เบียร์ใช้ปลายเท้าเขี่ยร่างของชายคนดังกล่าว
ไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบรับ ร่างของชายคนนั้นยังคงแน่นิ่งไม่ไหวติง
ผักบุ้ง กลอกตาไปมา หันไปมองต้นซอยก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆอีกครั้ง
หญิงสาวในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนสีมอซอ ค่อยๆถอยหลัง
ตัดสินใจเดินไปเปิดประตูรั้วไม้ที่จะพังไม่พังแหล่ออก
พาตัวเองเข้าไปในเขตบ้านเพียงลำพัง ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมอง
ร่างที่นอนคว่ำหน้าอยู่ริมรั้วเลยสักนิด
ผักบุ้งเปิดประตูห้องเข้าไปอย่างเบามือที่สุดเท่าที่จะเบาได้
สิ่งแรกที่เธอทำเมื่อเข้าบ้านคือ ดูน้องสาวสุดแสบของเธอทั้งสอง
กวางตุ้ง และ คะน้า ในวัยเจ็ดขวบและห้าขวบตามลำดับ
หลังพ่อกับแม่แยกทางกัน ครอบครัวของเธอก็มีกันแค่สามคนพี่น้องเท่านั้น
เป็นลูกสามคนที่พ่อแม่ที่พ่อแม่ไม่ต้องการ ทิ้งไว้ไม่แยแส…….
ก่อนหน้านี้พวกเธอทั้งสามยังโชคดีอยู่สักหน่อยที่มียายเลี้ยงดู
แต่พอยายของพวกเธอจากไป ผักบุ้งจึงต้องกลายเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของบ้านทันที
ทว่าในจังหวะที่หญิงสาวกำลังจะเดินเข้าห้อง
สายตาพลันเหลือบออกไปมองนอกบ้าน ฟ้าแลบแปลบปลาบ
ดูท่าอีกไม่นานฝนคงจะตก เธอหวนนึกไปถึงร่างที่นอนคว่ำหน้าอยู่หน้าบ้าน
ไม่รู้ว่าชายคนนั้นจะเป็นยังไงบ้าง ถ้าตายขึ้นมาล่ะ?
วิญญาณจะมาเร่ร่อนอยู่หน้าบ้านของเธอมั้ยนะ คนยิ่งกลัวผีอยู่ด้วย!
“ออกไปดูสักหน่อยก็แล้วกัน”
ผักบุ้งตัดสินเดินออกไปดูอีกครั้งพร้อมกับไฟฉายกระบอกน้อยในมือ
“กินอะไรเข้าไปตัวหนักชะมัด!”
ผักบุ้งบ่นอุบในขณะที่กำลังพลิกร่างอีกฝ่ายให้นอนหงาย
ใบหน้าของเขาอาบไว้ด้วยเลือดที่เริ่มแห้งกรัง ตอนที่เธอเดินออกมา
พบว่าอีกฝ่ายยังคงหายใจอยู่ แม้ว่าจะแผ่วเบามากก็ตาม
เธอลังเลใจอยู่นานว่าจะลากร่างคนตรงหน้าเข้าบ้านดีหรือไม่
แต่เม็ดฝนที่เริ่มสาดลงมาทำให้ผักบุ้งจำต้องรีบพาเขาเข้าบ้านไปในที่สุด
“ปึก!”
เสียงเหล่านี้ดังขึ้นเป็นระยะ เมื่อผักบุ้งลากชายหนุ่มปริศนาเข้าบ้าน
ถ้าศีรษะของเขาไม่ชนกับกระถางต้นไม้ ก็ปะทะเข้าขอบประตู ไม่ก็เหลี่ยมโต๊ะ
สิ่งแรกที่ผักบุ้งทำเมื่อลากชายคนนั้นเข้ามาในบ้านได้
ไม่ใช่เช็ดหน้าหรือทำแผลให้ แต่เธอกำลังล้วงกระเป๋ากางเกง
สำรวจทรัพท์สินหาของมีค่า เผื่อว่าเขาฟื้นขึ้นมาเธอจะได้เรียกเงิน
จากเขาให้มากหน่อย นี่ค่าน้ำ ค่าไฟก็ยังไม่ได้จ่าย….
เพียงแค่คิดผักบุ้งก็ถอนหายใจออกมา
ร่างหนานอนไม่ได้สติ แม้ว่าตอนนี้เขาจะโดนจับเปลื้องผ้า
เช็ดตัวเอาคราบสกปรกออก ทำแผลด้วยยาหมดอายุ
แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมาแต่อย่างใด
เป็นเวลากว่าตีสาม ผักบุ้งทำทุกอย่างจนเสร็จ ไม่ว่าจะเป็นข้าวต้มมัด
ที่เอาไว้ขายตอนเช้าหรืออาบน้ำให้ตัวเอง และทำแผลให้ชายคนนั้น
เธอนั่งเท้าคางมองอีกฝ่าย พลางคิดว่าตนคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่ที่ช่วยชายคนนี้ไว้
ในกระเป๋าไม่มีเงินสักบาท!